บทคัดย่อจากข้อเขียนของปรมหังสา โยคานันทะ
ที่มา https://yogananda.org/th
มนุษย์แสวงหาตลอดกาลถึง “บางสิ่ง” ที่เขาหวังว่าจะทำให้เขาเป็นสุขสมบูรณ์ตลอดไป สำหรับปัจเจกวิญญาณผู้แสวงหาจนได้พบพระเจ้า การแสวงหาจะยุติ: พระองค์คือสิ่งนั้น
หลายคนอาจสงสัยว่าเป้าหมายของชีวิตคือการพบพระเจ้าจริงละหรือ แต่ทุกคนยอมรับว่าเป้าหมายของชีวิตคือการค้นพบความสุข ข้าพเจ้าขอบอกว่าพระเจ้าคือความสุข พระองค์คือปีติ พระองค์คือความรัก พระองค์คือความปีติสุขที่จะไม่มีวันหายไปจากวิญญาณของเรา ดังนั้นทำไมเราถึงไม่ดิ้นรนหาความสุขนี้ให้ได้ล่ะ? ไม่มีใครอื่นจะเอามาให้เราได้ เราต้องปลูกฝังมันขึ้นมาด้วยตัวเราเอง
แม้ช่วงหนึ่งในชีวิตเรามีทุกสิ่งที่ต้องการ—ความมั่งคั่ง, อำนาจ, มิตรสหาย—ไม่นานนักเราก็จะเบื่อหน่ายรู้สึกไม่พออยู่ดี อยากได้สิ่งอื่นเพิ่มเติม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยทำให้เราเบื่อหน่าย—นั่นคือความปีติ ความสุขคือความยินดีในหลายลักษณะแต่สาระไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นประสบการณ์ภายในที่ทุกคนแสวงหา ความปีติที่ยั่งยืนใหม่เสมอคือพระเจ้า เมื่อพบความปีตินี้ภายใน เราจะค้นพบในทุกสิ่งภายนอก ในพระเจ้าเราจะดื่มด่ำความปีติจากอ่างน้ำนิรันดร์อย่างไม่มีวันจบสิ้น
สมมุติว่าท่านถูกลงโทษไม่ให้หลับในตอนที่ท่านอยากพักผ่อนอย่างที่สุด แล้วจู่ๆ มีคนพูดว่า “เอาละ ไปนอนได้แล้ว” คิดดูเถิด ท่านจะเป็นสุขใจแค่ไหนก่อนผล็อยหลับลงไป แม้จะคูณไปอีกล้านเท่า! ก็ยังพรรณนาไม่ได้ถึงความปีติที่จะรู้สึกเมื่อได้สนทนากับพระเจ้า
ความสุขในพระเจ้าไร้ขอบเขตุ ไม่หมดสิ้น ใหม่เสมอ ร่างกาย จิตใจ สิ่งใดๆ ไม่อาจรบกวนได้เมื่อท่านอยู่ในสภาวจิตนั้น—นั่นคือพระกรุณาและพระสิริแห่งพระเจ้า พระองค์จะอธิบายสิ่งที่ท่านไม่เคยเข้าใจ: และทุกสิ่งที่ท่านอยากรู้
เมื่อเรานั่งนิ่งสงบในสมาธิลึก ความสุขจะไหลหลั่งจากภายในพ้นจากสิ่งเร้าภายนอก ความปีติในสมาธินั้นท่วมท้นสุดพรรณนา ผู้ไม่เคยสงบในสมาธิอันแท้จริงจะไม่รู้ว่าความปีติที่แท้นั้นเป็นอย่างไร
เมื่อจิตและอารมณ์ผันสู่ภายใน เราจะเริ่มสัมผัสความปีติแห่งพระเจ้า ความเพลิดเพลินจากประสาทสัมผัสไร้ความยั่งยืน แต่ความสุขในพระเจ้านั้นยั่งยืนตลอดกาล ไร้สิ่งใดมาเปรียบเทียบได้!
มีน้อยคนนักที่รู้ว่าเราสามารถให้สิ่งดีๆ ต่อชีวิตได้หากเราใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง โดยอาศัยปัญญา และใช้อย่างคุ้มค่า เราควรใช้เวลาอย่างประหยัด—เวลาในชีวิตหดหายไปเรื่อยๆ ก่อนเราตื่นนอนด้วยซ้ำ และนั่นละที่ทำให้เราไม่ตระหนักถึงคุณค่าของเวลาอมตะที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา
จงอย่าปล่อยเวลาไปกับการอยู่เฉยๆ ผู้คนมากมายวุ่นวายอยู่กับกิจกรรมที่ไร้ผล พอถามว่าพวกเขากำลังทำอะไร พวกเขามักจะตอบว่า “โอ๊ย ฉันยุ่งอยู่ทุกนาที” แต่แทบจำไม่ได้ว่ายุ่งอยู่กับสิ่งใด!
ในทันทีที่เราต้องจากโลกนี้ไปตอนไหนก็ได้: ถึงตอนนั้นเราต้องยกเลิกทุกอย่างที่ทำอยู่ แล้วทำไมยังให้ความสำคัญอันดับแรกแก่กิจกรรมอื่น จนไม่มีเวลาให้แก่พระเจ้า? นั่นไม่ใช่สามัญสำนึก แต่เป็นเพราะมายาความหลงแห่งจักรวาลที่เหวี่ยงแหคลุมพวกเราเอาไว้ เราจึงดิ้นพัวพันอยู่กับผลประโยชน์ทางโลกจนลึมพระผู้เป็นเจ้า
ถ้าเราปรับให้เข้ากับพระเจ้า การรับรู้ของเราจะไร้ขีดจำกัด คลอบคลุมทุกแห่งหนในกระแสมหาสมุทรแห่งพระองค์ทุกสถาน เมื่อรู้จักบรมวิญญาณ และรู้ว่าเราก็คือบรมวิญญาณ ก็จะไม่มีแผ่นดิน ทะเล โลกหรือท้องฟ้า—ทุกสิ่งคือพระองค์ ภาวะที่ทุกสิ่งหลอมรวมในบรมวิญญาณนั้นใครก็ไม่อาจพรรณนาได้ เป็นความรู้สึกของปีติอันยิ่งใหญ่— ปีติสุขบริบูรณ์นิรันดร์ เป็นความรู้และความรักที่สัมผัสได้
ความรักพระเจ้า ความรักบรมวิญญาณ คือความรักต่อทุกสิ่งอย่างครอบคลุม เมื่อท่านได้ประสบการณ์นี้ มันจะนำท่านเข้าสู่ดินแดนอมตะไปเรื่อยๆ รักนั้นไม่มีวันหมดไปจากใจของท่านได้ ไฟรักจะโชติโชนอยู่ตรงนั้น และในประกายไฟนี้ ท่านจะพบแรงดึงดูดมหาศาลของบรมวิญญาณจะดึงดูดผู้อื่นมาสู่ท่าน และดูดดึงทุกสิ่งที่ท่านต้องการหรือปรารถนาอย่างแท้จริง
ข้าพเจ้าบอกท่านตามความจริงว่า ทุกคำถามของข้าพเจ้าได้รับคำตอบ ไม่ใช่โดยมนุษย์แต่โดยพระผู้เป็นเจ้า โดยพระองค์ พระองค์อย่างแน่แท้ พระวิญญาณของพระองค์ตรัสกับท่านผ่านข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพูดแต่ความรักของพระองค์ ตื่นเต้นไม่รู้จบ! ความรักของพระองค์เข้ามาสู่วิญญาณดั่งสายลมสุดอ่อนโยน ทั้งวันทั้งคืน สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ปีแล้วปีเล่า เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ —ท่านไม่รู้หรอกว่าจะไปสิ้นสุด ณ ที่ใด และนั่นคือสิ่งที่เราทุกคนกำลังแสวงหา ท่านคิดว่าท่านต้องการความรักจากมนุษย์และความมั่งคั่ง แต่เบื้องหลังคือพระบิดากำลังเรียกหาท่าน ถ้าท่านตระหนักว่าพระองค์ยิ่งใหญ่กว่าบำเหน็จทั้งหลายที่ประทานให้ ท่านจะได้พบพระองค์
มนุษย์มาสู่โลกเพียงเพื่อเรียนรู้พระเจ้า: เขาอยู่ที่นี่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่น นี่คือพระวรสารแท้จริงที่ทรงมอบแก่ผู้แสวงหาและรักพระองค์ ทรงตรัสถึงชีวิตประเสริฐที่ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีความแก่ชรา ไม่มีสงคราม ไม่มีความตาย—มีแต่ความมั่นใจนิรันดร์ ในชีวิตนั้นสิ่งใดไม่ถูกทำลาย มีแต่ความสุขที่ไม่อาจลบล้าง ไม่มีวันเน่าเปื่อย—ความสุขที่ใหม่เสมอ
เพราะเหตุนี้การแสวงหาพระเจ้าจึงเป็นสิ่งคุ้มค่า ผู้แสวงหาพระองค์อย่างจริงใจจะพบพระองค์อย่างแน่นอน ผู้ประสงค์จะรักพระเจ้าปรารถนาเข้าถึงแผ่นดินแห่งพระเจ้า และหวังอย่างจริงใจอยากรู้จักพระองค์ เขาจะได้พบพระองค์ ท่านต้องปรารถนาพระองค์ให้มากขึ้นๆ ทั้งกลางวันกลางคืน พระองค์จะทรงรับความรักของท่าน ทรงรักษาพระสัญญาตลอดกาลนิรันดร์ แล้วท่านจะรู้ความปีติและความสุขอันไร้ที่สิ้นสุด ทุกสิ่งคือแสง ทุกคือความสุข ทุกสิ่งคือศานติ ทุกสิ่งคือความรัก ทุกสิ่งคือพระองค์